หัวข้อ   “คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2553”
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กร
ชั้นนำ 21 แห่ง เรื่อง “คาดการณ์เศรษฐกิจปี 2553” พบว่า นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ร้อยละ 81.8 คาดว่าเศรษฐกิจไทย
ในปี 2553 จะขยายตัวร้อยละ 3.0   ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกอันจะช่วยให้การส่งออกของไทย
ขยายตัวร้อยละ 9.6 แต่ทั้งนี้ ผู้ส่งออกจะต้องจับตาและบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า
เงินบาทจะแข็งค่าลงไปถึงระดับ 32.00-32.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งราคาน้ำมันที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ใน
ระดับ 80-89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

                 ส่วนอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย คาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำอันเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการขยายตัวทาง
เศรษฐกิจในปี 2553

                 สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2553 นั้น นักเศรษฐศาสตร์ยังคงกังวลต่อปัญหา
ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก ปัญหาการเมืองและการชุมนุมประท้วง และปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น กรณีมาบตาพุด
และแหลมฉบัง เป็นต้น

                 (โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)
 
             1. ความเห็นต่อประเด็น การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2553 เปรียบเทียบกับปี 2552 พบว่า

 
ร้อยละ
เห็นว่าเศรษฐกิจโลกปี 2553 จะดีกว่าปี 2552   โดยคาดว่า
จะขยายตัวร้อยละ 2.4
84.9
เห็นว่าเศรษฐกิจโลกปี 2553 จะแย่กว่าปี 2552
1.5
ไม่มีความเห็น (ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่มั่นใจ)
13.6
 
 
             2. ความเห็นต่อประเด็น การขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (Real GDP)ในปี 2553 เปรียบเทียบ
                 กับปี 2552 พบว่า

 
ร้อยละ
เห็นว่าเศรษฐกิจไทยปี 2553 จะดีกว่าปี 2552   โดยคาดว่า
จะขยายตัวร้อยละ 3.0
81.8
เห็นว่าเศรษฐกิจไทยปี 2553 จะแย่กว่าปี 2552
7.6
ไม่มีความเห็น (ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่มั่นใจ)
10.6
 
 
             3. ความเห็นต่อประเด็น การขยายตัวของการส่งออกในปี 2553 เปรียบเทียบกับปี 2552 พบว่า

 
ร้อยละ
เห็นว่า การส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 9.6
71.2
เห็นว่า การส่งออกจะขยายตัวติดลบ
10.6
ไม่มีความเห็น (ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่มั่นใจ)
18.2
 
 
             4. ความเห็นต่อประเด็น ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2553 พบว่า

 
ร้อยละ
เห็นว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับสูงกว่า 99 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย
0.0
เห็นว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับ 90-99 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย
3.0
เห็นว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับ 80-89 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย
40.9
เห็นว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับ 70-79 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย
39.4
เห็นว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับ 60-69 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย
7.6
เห็นว่าราคาน้ำมันดิบจะอยู่ในระดับต่ำกว่า 60 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่อบาร์เรลโดยเฉลี่ย
1.5
ไม่มีความเห็น (ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่มั่นใจ)
7.6
 
 
             5. ความเห็นต่อประเด็น อัตราเงินเฟ้อในปี 2553 พบว่า

 
ร้อยละ
เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อจะขยายตัวเป็นบวกได้ในระดับร้อยละ 2.4
81.8
เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อจะยังคงติดลบ
7.6
ไม่มีความเห็น (ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่มั่นใจ)
10.6
 
 
             6. ความเห็นต่อประเด็น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย พบว่า

 
ร้อยละ
เห็นว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
นโยบายจากร้อยละ 1.25 เป็นร้อยละ 2.00 ภายในสิ้นปี 2553
โดยจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกใน ไตรมาส 3
66.7
เห็นว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่
ร้อยละ 1.25
21.2
ไม่มีความเห็น (ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่มั่นใจ)
12.1
 
 
             7. ความเห็นต่อประเด็น ทิศทางค่าเงินบาทปี 2553 พบว่า

 
ร้อยละ
เห็นว่า ค่าเงินบาทจะแข็งค่ากว่า 32.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
16.7
เห็นว่า ค่าเงินบาทจะอยู่ในช่วง 32.00-32.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
43.9
เห็นว่า ค่าเงินบาทจะอยู่ในช่วง 33.00-33.99 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
27.3
เห็นว่า ค่าเงินบาทจะอ่อนค่ากว่า 34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
4.5
ไม่มีความเห็น (ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่มั่นใจ)
7.6
 
 
             8. ความเห็นต่อประเด็น ปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจไทยปี 2553 พบว่า

 
ร้อยละ
อับดับ 1 ความเปราะบางของเศรษฐกิจโลก
      (เช่น ภาวะฟองสบู่ในหลายประเทศและการเลื่อนการชำระหนี้
       ของดูไบเวิลด์)
32.6
อันดับ 2 ปัญหาการเมืองและการชุมนุมประท้วง
29.0
อันดับ 3 ราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น
12.6
อันดับ 4 ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม (เช่น กรณีมาบตาพุด และแหลมฉบัง)
12.4
อันดับ 5 ค่าเงินบาทที่คาดว่าจะแข็งค่า
5.8
อันดับ 6 ปัญหาหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
3.8
อันดับ 7 ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
2.0
อันดับ 8 การเปิดเสรีของกลุ่มการค้าอาเซียน
1.8
 
หมายเหตุ: ตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในรายงานการสำรวจฉบับนี้เป็นค่าเฉลี่ยที่ได้จากการสำรวจ
 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์:
                  1. เพื่อสะท้อนความเห็นในประเด็นด้านเศรษฐกิจจากผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ
                      โดยตรงไปยังสาธารณชนโดยผ่านช่องทางสื่อมวลชน
                  2. เพื่อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการและวางแผนงานเพื่อ
                      ประโยชน์สูงสุดกับประเทศไทย
 
กลุ่มตัวอย่าง:
                        เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์
               (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใด
               อย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้
               ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปี)  ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์   วิจัย
               เศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ  จำนวน 21 แห่งได้แก่   ธนาคารแห่งประเทศไทย   สำนักงาน
               คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์
               สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง   สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร   สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
               มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย   ศูนย์วิจัยกสิกรไทย   ธนาคารกรุงไทย   ธนาคารไทยพาณิชย์
               ธนาคารนครหลวงไทย   ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย   ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย
               สมาคมธนาคารไทย บริษัททริสเรทติ้งจำกัด   บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน)   บริษัทหลักทรัพย์
               เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)   คณะเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยทักษิณ   คณะเศรษฐศาสตร์
               มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์   คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์
               และนักวิจัยประจำศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                        รวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายใน
               ระยะเวลาที่กำหนด
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล: 14 - 18 ธันวาคม 2552
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 28 ธันวาคม 2552
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่าง
 
จำนวน
ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่:    
             หน่วยงานภาครัฐ
36
54.5
             หน่วยงานภาคเอกชน
19
28.8
             สถาบันการศึกษา
11
16.7
รวม
66
100.0
เพศ:    
             ชาย
38
57.6
             หญิง
28
42.4
รวม
66
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 25 ปี
2
3.0
             26 – 35 ปี
32
48.6
             36 – 45 ปี
16
24.2
             46 ปีขึ้นไป
16
24.2
รวม
66
100.0
การศึกษา:
 
 
             ปริญญาตรี
4
6.1
             ปริญญาโท
49
74.2
             ปริญญาเอก
13
19.7
รวม
66
100.0
ประสบการณ์ทำงาน:
 
 
             1 - 5 ปี
16
24.2
             6 - 10 ปี
19
28.9
             11 - 15 ปี
6
9.1
             16 - 20 ปี
9
13.6
             ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
16
24.2
รวม
66
100.0
 
Vote:  ดีมาก(5) ดี (4) ปานกลาง(3) พอใช้ (2) แย่ (1)  
 ผลคะแนนVote              
 
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776